วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ช้าม่วง






ชื่อวิทยาศาสตร์: Anisoptera scaphula (Roxb.) Kurz
ชื่อวงศ์:  DIPTEROCARPACEAE 
ลักษณะทั่วไป: ไม้ต้น สูงได้ถึง 50 ม. พูพอนสูงได้ถึง 3 ม. ชันสีขาวขุ่น มีขนสั้นนุ่มตามกิ่งอ่อน หูใบด้านใน ช่อดอก กลีบเลี้ยง และกลีบดอกด้านนอก หูใบรูปใบหอกหรือรูปแถบ ยาว 5-8 มม. ใบรูปขอบขนานหรือรูปใบหอก ยาว 8-20 ซม. แผ่นใบเกลี้ยง เส้นแขนงใบข้างละ 12-20 เส้น เรียงจรดกันใกล้ขอบใบไม่ชัดเจน ก้านใบยาว 1.5-3 ซม. ช่อดอกยาวได้ถึง 20 ซม. ก้านดอกยาว 1-2 มม. กลีบเลี้ยงยาวประมาณ 3 มม. กลีบดอกรูปไข่แกมรูปขอบขนาน ปลายกลีบมน ยาว 7-8 มม. เกสรเพศผู้ 15 อัน อับเรณู ยาว 1-2 มม. ปลายมีรยางค์สั้น ๆ เป็นติ่งแหลม ฐานก้านเกสรเพศเมียไม่ชัดเจน ก้านเกสรเพศเมียยาวประมาณ 1 มม. ยอดเกสรจัก 3 พู ไม่ชัดเจน หลอดกลีบเลี้ยงมีขนประปราย ปีกยาว 2 ปีก ยาว 10-15 ซม. ปีกสั้น 3 ปีก ยาว 1-3 ซม. ผลเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ กระบาก, สกุล) พบที่อินเดีย บังกลาเทศ พม่าตอนล่าง และคาบสมุทรมลายูตอนบน ในไทยพบกระจายห่าง ๆ ทางภาคเหนือ ภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่กาญจนบุรี และภาคใต้ ขึ้นตามป่าดิบแล้ง และป่าดิบชื้น ความสูง 300-700 เมตร เป็นไม้วงศ์ยางที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของไทย พบที่อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช (ต้นกระบากใหญ่) จังหวัดตาก มีเส้นรอบวงถึง 16 เมตร สูงประมาณ 50 เมตร ชื่อ ช้าม่วง เป็นชื่อที่เรียกทางภาคใต้ หมายถึงคล้ายมะม่วง ตามลักษณะใบอ่อนที่มีสีม่วง
ชื่อพ้อง  :  Hopea scaphula Roxb.
ชื่ออื่น  :  กระบาก (กาญจนบุรี); กะหด (ภาคเหนือ); จำปา (นครศรีธรรมราช); จำปาใบเล็ก (ระนอง); ช้าม่วง (ภาคใต้); ตาบ (นครศรีธรรมราช); บากขาว (พังงา); ปีก (ตรัง, ปัตตานี)










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น