วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2561

รามใหญ่






ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ardisia elliptica Thunb. จัดอยู่ในวงศ์ PRIMULACEAE (MYRSINACEAE)
สมุนไพรรามใหญ่ มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ :  ว่า ลังพิสา (ตราด), ทุรังกาสา (ชุมพร), ปือนา (มลายู-นราธิวาส) เป็นต้น
ลักษณะของรามใหญ่ :
ต้นรามใหญ่ มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ จัดเป็นไม้พุ่มกึ่งไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีความสูงได้ประมาณ 1.5-3 เมตร แตกกิ่งก้านสาขารอบ ๆ ต้นมาก เปลือกลำต้นและกิ่งเรียบเกลี้ยงเป็นสีน้ำตาลอมเทา กิ่งอ่อนมนกลมหรือเป็นเหลี่ยมเล็กน้อย เป็นสีน้ำตาลอมแดง ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและวิธีการตอนกิ่ง ชอบความชื้นปานกลางและแสงแดดแบบเต็มวัน มีเขตการกระจายพันธุ์อยู่ทางตอนใต้ของอินเดีย ศรีลังกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทยพบได้ทางภาคใต้ มักขึ้นกระจายตามชายฝั่งทะเล ริมแม่น้ำ แนวหลังป่าชายเลน ขึ้นแทรกอยู่ตามป่าเบญจพรรณ หรือป่าดิบบนภูเขาหินทราย ที่ระดับความสูงไม่เกิน 500 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ใบรามใหญ่ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับหนาแน่นที่ปลายกิ่ง ลักษณะของใบเป็นรูปรี รูปรีแกมขอบขนาน หรือรูปใบหอกถึงรูปไข่กลับ ปลายใบกลมทื่อถึงเป็นติ่งแหลม โคนใบเป็นรูปลิ่ม ส่วนขอบใบเรียบ มีจุดเล็ก ๆ สีเขียวอ่อนแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเมื่อใบแก่ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 7-15 เซนติเมตร เนื้อใบหนาคล้ายแผ่นหนัง นุ่ม และอวบน้ำ หลังใบและท้องใบเรียบเกลี้ยง มีจุดโปร่งแสงสีเขียวคล้ำกระจายทั่วแผ่นใบ หลังใบด้านบนเป็นสีเขียวคล้ำ ส่วนท้องใบด้านล่างเป็นสีเขียวนวล เส้นใบเป็นแบบร่างแหขนนก เส้นใบมองเห็นไม่ค่อยชัดเจน ก้านใบสั้นเป็นสีแดง
ดอกรามใหญ่ ออกดอกเป็นช่อเชิงลดรูปบพัดคล้ายซี่ร่ม โดยจะออกตามซอกใบและที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อจะมีดอกประมาณ 5-8 ดอก ก้านช่อดอกยาวประมาณ 1.5-2.5 เซนติเมตร ก้านดอกเรียว ดอกตูมเป็นรูปทรงกรวย เมื่อดอกบานจะเป็นรูปวงล้อสีชมพูอ่อน มีกลีบดอก 5 กลีบ กลีบดอกเรียงบิดเวียน ปลายกลีบเรียวแหลม มีจุดต่อมโปร่งแสงสีม่วง ส่วนกลีบเลี้ยงเป็นสีเขียว โคนเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็นแฉก 5 แฉก รูปไข่กว้างถึงรูปมนกลม
ผลรามใหญ่ ผลมีลักษณะเป็นรูปทรงกลมหรือกลมแป้น ผิวผลเรียบ ปลายผลมีติ่งแหลมสั้น เนื้อในผลนุ่ม ผลอ่อนเป็นสีเขียว สีแดงเรื่อ เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงดำ ภายในผลมีเมล็ด 1 เมล็ด เมล็ดมีลักษณะกลมแข็ง ออกดอกและผลในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน
ประโยชน์ของรามใหญ่
1. ยอดอ่อนใช้รับประทานแกล้มกับน้ำพริก
2. ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป เป็นไม้ทรงพุ่ม ช่อดอกสวยงาม






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น